เกม Sci fi RPG ที่แฟนคลับเหนียวแน่นอย่างเกม Mass Effect ได้ประกาศออกมาว่าจะทำเป็นภาค Legendary Edition โดยจะเป็นการมัดรวมภาค 1 2 และ 3 ไปด้วยกัน ทำให้แฟน ๆ ของเกมนี้รอคอยกันอยากจดจ่อ หลังจากที่พักหลัง ๆ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก ซึ่งก็แน่นอนว่าภาคนี้จะเป็นภาคที่ทุกคนรอคอยกันมากที่สุด ซึ่งทีมงานก็บอกว่าจะเป็นการยกเครื่องของเกมนี้เลย ต้องมาดูว่าจะทำออกมาได้ดีขนาดไหน สมกับที่แฟนแฟนรอคอยหรือไม่
โดยเรื่องราวภายในเกมนี้ เป็นเหมือนมหากาพย์ของโลกอนาคตในช่วงศตวรรษที่ 22 หลังจากที่เหล่ามนุษยชาติได้ขยายอาณานิคม ไปยังดวงดาวต่าง ๆ และได้ค้นพบกับเทคโนโลยีและมนุษย์ต่างดาว ทั้งเผ่าพันธุ์ที่ฉลาดและมีปัญญาทำให้เราได้รู้จักกับ Mass Effect ที่ทำให้เดินทางได้เร็วกว่าแสง และจะสามารถขยายอาณาเขตในการสำรวจระบบสุริยะจักรวาลได้กว้างไกลมากกว่าเดิม ที่มนุษย์เคยทำได้ รวมไปถึงการได้พบกับสิ่งมีชีวิตและความคิดสร้างสรรค์เทคโนโลยีอื่น ๆ ที่ทำออกมาได้ดีและมีความอันตราย โดยเรื่องราวของ 3 ภาคแรกนั้น จะเป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวละครอย่าง Commander Shepherd ซึ่งผู้เล่นก็จะสามารถสร้างเองได้ ตั้งแต่การเลือกเพศและรูปลักษณ์ต่าง ๆ สามารถปรับแต่งได้เพื่อที่จะออกเดินทางไปในระบบสุริยะเพื่อที่จะทำสิ่งต่าง ๆ เช่นการช่วยเหลือผู้คน การทำภารกิจตามคำสั่ง
รวมไปถึงการเข้าร่วมสงครามของเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งจะเป็นการกำหนดอนาคตของจักรวาล ในไตรภาคแรกถือว่าเป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องดีมาก ๆ เลย Setting ที่มีความน่าสนใจและความหนักแน่น มีความเป็นเหตุเป็นผลอยู่ ส่วนการเล่าเรื่องและบทพูดของตัวละครทุกตัวในเกมก็มีความพิถีพิถัน และการนำเสนอเนื้อเรื่องหลักก็มีความลึกล้ำหักมุมและยังน่าติดตามอีกด้วย ซึ่งผู้เล่นก็อาจจะคาดไม่ถึงได้เช่นกัน หากใครที่ชอบเนื้อเรื่องของเกมนี้ที่มีความเข้มข้น โดยเฉพาะคนที่ชอบเกมแนวอวกาศ Sci fi ถือว่าถูกจริตกับเกมนี้มาก ๆ นอกจากจะถ่ายทอดบรรยากาศออกมาได้ดีแล้ว เกมนี้ก็ยังมีซีนที่น่าประทับใจอยู่หลายซีนทั้งตัวละครมากมาย และอารมณ์ที่มีความอัดแน่นบีบคั้นจิตใจ หรือแม้กระทั่งมุกตลกที่สอดแทรกเข้ามา หรือจะตัดไปที่ฉากเศร้าที่ดึงอารมณ์สุด ๆ ก็ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
ส่วนของระบบการเล่นของทั้งสามภาคนั้น ก็จะมีการสำรวจพื้นที่และการพูดคุยกับตัวละคร และยังมีการต่อสู้แบบแอ็คชันและช๊ดติ้งแบบระยะไกลและระยะประชิด ซึ่งก็แน่นอนว่าภาคแรกนั้นก็จะถูกปรับไปเยอะมากที่สุด ให้มีความใกล้เคียงกับภาคสองและภาคสามที่มีความเป็นแอ็คชันมากขึ้น ซึ่งภาพรวมของทั้งสามภาคนี้ก็มีลูกเล่นและเทคนิค ที่ทำออกมาสนุกตื่นเต้น
ซึ่งแต่ละเผ่าพันธุ์ก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันทำให้การเลือกอาวุธและลูกทีมให้เหมาะกับแต่ละภารกิจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งทั้งสามภาคนี้เป็นเกมแนว RPG ที่มีทั้งการผจญภัยออกไปสำรวจและพูดคุยและการต่อสู้แบบแอ็คชัน Shootting ซึ่งในการเล่นก็จะมีการเลือกคำตอบของบทสนทนา ซึ่งในการเลือกนี้ก็จะส่งผลต่อเนื้อเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องหลัก หรือความสัมพันธ์กับตัวละครตัวอื่น ๆ ซึ่งผู้เล่นก็จะสามารถเลือกเส้นทางของตัวเองได้ นอกจากระบบการต่อสู้แล้ว อีกหนึ่งส่วนที่สำคัญก็คือระบบการอัพเกรดสิ่งต่าง ๆ ภายในเกม ตั้งแต่การอัพเลเวล Stat ตัวละคร อาวุธ และยาที่ทำออกมาได้ลึกในระดับนึงเลย หากผู้เล่นคนไหนที่ชอบการปรับแต่งสิ่งต่าง ๆ น่าจะชอบเกมนี้พอสมควร
และตัวเกมยังสามารถเลือกปรับระดับความยากได้ ตั้งแต่การเริ่มเกมครั้งแรกเลย ไม่ว่าผู้เล่นจะเข้ามาเพื่อดูเนื้อเรื่อง ไม่ได้เน้นการเล่น หรือผู้เล่นที่เข้ามาเพื่อเล่นก็ตาม โดยเกมนี้มีเนื้อเรื่องที่ยาวมากกับโลเคชั่นที่เต็มไปด้วยดวงดาวมากมาย ในจักรวาลที่กว้างใหญ่ ส่วนสิ่งที่เปลี่ยนไปในภาคนี้ก็จะเป็นภาคแรกที่มีการเปลี่ยนมากที่สุด ทั้งหน้าจอเมนูซึ่งปรับให้มีความคล้ายกับภาคสองและภาคสามมากขึ้น และเอฟเฟคในการใช้ความสามารถต่าง ๆ ซึ่งทำออกมาได้ดีและลื่นไหลขึ้นมากกว่าเดิม ส่วนภาคสองและภาคสามอาจจะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงมากนักแค่มีการปรับปรุงกราฟฟิกและเพอร์ฟอร์แมนซ์ แต่ได้เพิ่มคอมมิกซ์เข้ามาเพื่อช่วยแต่งเติมเรื่องราวได้
ในส่วนของระบบกราฟฟิกและระบบซาวด์เอฟเฟคนั้น ภาคแรกจะถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นมากที่สุด ทั้งการอัพสเกลให้มีความละเอียดสูงขึ้น ทั้งพื้นผิวแสงและเงาที่ทำออกมาได้ดีขึ้น การออกแบบโลกของเกม สภาพแวดล้อมภายในเกม และเอเลี่ยนแต่ละชนิด ทั้งรูปร่างหน้าตาและการแต่งกาย ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ส่วนซาวด์เอฟเฟค ก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมาก เพราะต้นฉบับก็ทำออกมาได้ดีอยู่แล้ว ที่มีความ Sci fi แบบอวกาศ เสียงเอฟเฟคเมื่ออยู่ในฉากต่อสู้ และวอยซ์แอ็คติ้งของตัวละครต่าง ๆ ก็ถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างดี
Mass Effect Legendary Edition ทั้งสามภาคนี้ ของเดิมได้ทำไว้ดีอยู่แล้ว แม้จะยังไม่สมบูรณ์แบบในทุกด้าน แต่ฉากหลังและเนื้อเรื่องที่ทำออกมาได้ดี การถ่ายทอดเรื่องราวและอารมณ์ของเกมผ่านฉากและตัวละครที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งในภาคนี้ก็ได้ปรับปรุงแก้ไขในหลาย ๆ จุด จากของเดิม โดยเฉพาะภาคแรก ก็น่าจะช่วยให้แฟน ๆ อยากกลับมาเล่น หรือผู้เล่นที่ชอบเกมแนว Sci fi อวกาศและยังไม่เคยเล่นเกมนี้เกมนี้ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ