เกม Hood : Outlaws & Legends ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่มี concept แปลกใหม่ ทั้งการเอา Theme ที่เป็นตำนานอย่าง Robinhood ที่ปล้นคนรวย ช่วยเหลือคนจน มาผสมเข้ากับเอลิเม้นแบบเวทมนต์ในยุคยุโรปโบราณ ซึ่งน่าสนใจมากและเน้นการเล่นไปที่ มัลติเพลเยอร์ ทำให้เกมเมอร์สาย Co-op ต้องหันมาจับตามองเกมนี้ตั้งแต่เปิดตัว ด้วยความที่ ธีมของเกม Hood : Outlaws & Legends เป็นแบบสงคราม การยิงกัน อาจทำให้ผู้เล่นรู้สึกเบื่ออะไรเดิม ๆ ทำให้เกมออกแบบมาให้ใช้ดาบ เวทมนตร์ และธนู แทน ต้องมาดูว่าเมื่อเล่นแล้วเกมยังคงน่าสนใจเหมือนกับที่ได้เปิดตัวไว้หรือเปล่า
การเริ่มต้นของเกม Hood : Outlaws & Legends เป็นเกมสำหรับการเล่นแบบมัลติเพลเยอร์เท่านั้น จะไม่ได้มี stories โหมดเนื้อเรื่อง และไม่ได้มีเนื้อเรื่อง อาจจะมีแค่ฉากหลังที่มีเซ็ตติ้งเป็นยุโรปยุคกลางผสมความแฟนตาซีในโลกที่โหดร้ายที่ถูกปกครองด้วยคนเลว ๆ ที่คอยกดขี่ชาวบ้านที่ไม่มีทางสู้ ทำให้ผู้เล่นต้องได้รับบทเป็นกลุ่มคนที่เขายอมทำผิดกฏหมายเพื่อช่วยชาวบ้านที่ถูกรังแกนั่นเอง โดยการเล่นในเกมนี้จะเป็นแบบ PvPvE หรือ Player Vs Player Vs Enemy ก็คือผู้เล่นจะต้องจัดทีมให้เป็นทีมละ 4 คน เพื่อขึ้นมาสู้กับทีมของผู้เล่นคนอื่น ๆ และศัตรูที่เป็น NPC ที่เป็นบอท ของเกมโดยทุก ๆ แมตช์จะมี 3 เฟส หรือ 3 ช่วงที่เหมือนกัน เฟสแรกทีมของเราจะต้องลักลอบเข้าไปขโมยกุญแจ หรือคลังสมบัติของผู้คุม
ส่วนเฟสที่ 2 หลังจากที่ได้กุญแจมาแล้วทีมเราจะต้องเข้าไปขโมยของในปราสาท และไปยังจุดส่งของ ส่วนเฟสสุดท้ายคือการส่งของให้ถึงมือผู้รับ ที่จะต้องใช้เวลาในการจัดส่งสักพัก โดยระหว่างทางในแต่ละเฟสนั้น ทีมผู้เล่นฝั่งตรงข้ามก็จะมีเป้าหมายเดียวกับเรารวมไปถึง AI และลูกน้องของมันก็จะไม่ยอมให้ผู้เล่นทำอะไรง่าย ๆ ภารกิจของเราจึงสามารถเกิดความพลิกผันได้ตลอดเวลาโดย concept ในการเล่นเกมนี้ ถือว่าทำออกมาได้อย่างน่าสนใจมาก ๆ และอีกส่วนที่ถือว่าทำออกมาได้อย่างดี คือ ส่วนของเลเวลดีไซน์และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ภายในเกม ไม่ว่าจะเป็นประสาท หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยทางลัดมากมาย ทั้งทางลับและซอยต่าง ๆ ก็เหมาะกับการซุ่มโจมตีมาก ๆ ก่อนและหลังแมตช์ผู้เล่นจะสามารถอัพเลเวลอัพเกรดสิ่งต่าง ๆ ได้ที่ฐานของเรา เพื่อรอที่จะไปทำสิ่งต่างๆอีกครั้งโดยในช่วงที่ game ออกก็จะมีแค่หมู่เดียวเท่านั้น แต่ตัวเกมก็ยังมีแผนที่อยู่หลายแผนที่ รวมไปถึงโลเคชั่นที่ต้องหาสมบัติหรือส่งของก็จะมีความหลากหลายและจะถูกสุ่มออกมาให้มีตำแหน่งที่แตกต่างกันในแต่ละแมตช์
แม้ว่าเกมนี้จะมีแค่โหมดเดียวแต่ก็ยังมีความแตกต่างเพียงพอในการเล่นแต่ละแมตช์ เพื่อให้ผู้เล่นกลับมาเล่นใหม่ได้หลาย ๆ รอบ และยังสามารถเล่นแบบสนุกสนุกได้อยู่ ส่วนหนึ่งก็มาจากเกมเพลย์ออกแบบมาได้อย่างดีทีเดียว แต่ตัวเกมก็ยังมีปัญหาทางเทคนิคอยู่มากมายทั้งระบบ Maps เกมและความสมดุลย์ของเกมที่อาจจะปรับออกมายังไม่ค่อยดี แต่ก็ต้องมาดูว่าในอนาคตจะสามารถแก้ไขได้หรือไม่ และจะดีขึ้นเมื่อไหร่ รวมไปถึงการอัพเดทระบบใหม่ การเพิ่มแผนที่ใหม่ แต่เมื่อต้องเทียบกับเกมมัลติเพลเยอร์อื่น ๆ แล้วเกมนี้ก็ถือว่ายังมีคอนเทนท์ที่น้อยเกินไป
ในส่วนของเกมเพลย์ Hood : Outlaws & Legends สิ่งที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับภาคนี้ คือ ตัวละครหลักที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและอาวุธที่แตกต่างกัน สายแรก ซุ่มยิงและสอดแนมจากเงามืดด้วย Ranger เป็นตัวของโรบินฮู้ด ที่ใช้ธนู ซึ่งมีควรามเชี่ยวชาญในการกำจัดศัตรูจากระยะไกล สามารถ สามารถยิงเชือกเพื่อไต่กำแพง ให้เพื่อนร่วมทีมสามารถปีนขึ้นไปบนกำแพงของปราสาทได้
และยังสามารถใช้อุปกรณ์พิเศษเพื่อมัดศัตรูได้อย่างรวดเร็ว สามารถช่วยทีมค้นหาทหารได้ และสามารถยิงลูกธนูระเบิดใส่ศัตรูเพื่อสร้างพลังทำลายล้างที่กว้างขวาง ต่อมาคือ Hunter ที่ดัดแปลงหน้าไม้ให้ติดกับแขน สามารถยิงลูกศรได้ 3 อันพร้อมกัน ซึ่งเหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิดหรือต่อสู้แบบระยะกลาง ๆ ได้ด้วย มีทั้งความว่องไวและลึกลับ สามารถจัดการกับศัตรูได้อย่างรวดเร็ว แถมยังมีระเบิกควันและสามารถล่องหนได้อีกด้วย เหมาะกับการลอบสังหาร การแทรกซึมเข้าไปยังเป้าหมายมาก ๆ ส่วน Brawler จะเป็นสายที่จะต่อสู้แบบซึ่ง ๆ หน้า เน้นต่อสู้ระยะประชิด เน้นการป้องกัน และต่อสู้กันแบบทีม มีทั้งพลังกาย ความอึดดีมาก และ Mystic ก็เป็นนักสู้ระยะประชิดที่เก่งกาจมาก สามารถมองศัตรูแบบทะลุกำแพงได้ ด้วยการสูดควันธูป และยังช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตของเพื่อนได้ ส่วนอาวุธคือลูกตุ้มที่จะช่วยสร้างอกาสให้ทีมได้อย่างน่ากลัวมาก ๆ ซึ่งแต่ละตัวนั้นก็มีความจำเป็นในการทำภารกิจด้วยกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะเมื่อผู้เล่นอัพเกรดสิ่งต่าง ๆ โดยใช้ค่าประสบการณ์และทองที่ได้มาจากการต่อสู้ ผู้เล่นสามารถเลือกตัวละครและเล่นแต่ตัวนั้นอย่างเดียวได้
ทำให้ผู้เล่นในทีมจะมีความไม่ค่อยสมดุลย์กัน ยิ่งถ้าบวกกับการจับคู่ผู้เล่นแบบสุ่ม ก็จะทำให้ในสนามการต่อสู้ก็จะมีทั้งนักสู้ ที่มากประสบการณ์ และผู้เล่นหน้าใหม่ ๆ ที่ยังไม่ชำนาญในการเล่น ต้องได้มาเจอกัน ซึ่งแน่นอนว่าแทบจะเล่นไม่ได้เลย เพราะมันมีความไม่แฟร์และน่าหงุดหงิดมาก ถ้าหากทีมงานได้ปรับแก้ในส่วนนี้ก็น่าจะทำให้เกมนี้ดูน่าเล่นขึ้นอีกมาก ๆ ทีเดียว และอีกข้อสังเกตของเกม คือ การเล่นแบบมัลติเพลเยอร์จะสนุกมากเมื่อเล่นกับเพื่อนที่จะต้องสื่อสารกันและรู้ใจกัน และยิ่งจับคู่กับฝั่งตรงข้ามที่มีทักษะในการเล่นและประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกัน ก็จะสร้างความท้าทายและเพิ่มความตื่นเต้นมากขึ้นไปอีก แม้ว่าการต่อสู้ในระยะไกลถือว่าทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ แต่การต่อสู้ระยะประชิดนั้นกลับรู้สึกผิดหวังมาก ๆ เพราะมันดูลอย ๆ และไม่มีความเที่ยงตรง รวมไปถึงบอทหรือ AI ลูกกระจ๊อกทั้งหลายที่ไม่ได้มีความฉลาดใด ๆ เหมือนมาแค่ปริมาณเท่านั้น ทำให้ผู้เล่นไม่ได้รู้สึกถึงความอันตรายแต่จะรู้สึกน่ารำคาญแทน และทั้งลูกน้องระดับสูงก็ถือว่ายังทำออกมาได้ดี
ในส่วนของกราฟฟิก ในภาค Outlaws & Legends ก็ยังถือว่าไม่ได้อลังการ ไม่ได้เต็มไปด้วยรายละเอียดที่มากมาย แต่งาน ด้านกราฟฟิคและงานศิลป์ของภาคนี้ก็สื่อไปถึงยุคยุโรปโบราณ และนำมาผสมกับความเป็นแฟนตาซีได้อย่างดี แต่ตัวละครกลับรู้สึกว่ามีความธรรมดาเกินไป โดยเฉพาะอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวในการต่อสู้ ที่ไม่ค่อยมีความลื่นไหลเท่าที่ควร ส่วนของซาวด์เอฟเฟคก็ทำออกมาได้ตามมาตรฐานแบบที่ควรจะเป็น แม้จะไม่ได้ถึงขนาดยอดเยี่ยมก็ตาม แต่ก็มี Soundtrack ที่ทำออกมาได้เข้ากับแต่ละเหตุการณ์ ส่วนซาวด์เอฟเฟคก็ทำออกมาได้อย่างสะใจ โดนเฉพาะการลอบเร้นเพื่อเข้าไปฆ่าได้
ด้วยเกมที่เป็นสไตล์นี้ ทำให้ขาดในส่วนของเนื้อเรื่องไป และมีปัญหาทางเทคนิคอีกมากมาย ส่วนโหมดการเล่นก็มีเพียงแค่โหมดเดียว บวกกับการแมตช์การแข่งขันการจับคู่ที่ไม่มีความบาลานซ์ทำให้ไม่มีความแฟร์สำหรับผู้เล่น แต่เกมนี้ก็ถือว่าเป็นเกมที่มี concept ของเกมแบบมัลติเพลเยอร์ที่น่าสนใจ เซ็ตติ้งและเลเวลดีไซน์ของเกมนี้ที่ไม่เหมือนกับเกมมัลติเพลเยอร์เกมอื่น ๆ ทั่วไป ส่วนระบบการต่อสู้ ระยะไกล การลอบเร้น ก็ถือว่าทำออกมาได้อย่างลงตัว แม้แผนที่จะมีไม่เยอะมากและเกมก็จะวนเป็นลูปเดิม แต่การที่เกมเพลย์มีการสุ่มพ้อยท์ให้มีความแตกต่างในแต่ละแมตช์ทำให้การเล่นแบบมัลติเพลเยอร์ในเกมนี้ก็มีความสนุกอยู่ไม่น้อยแม้จะใช้ระยะเวลาไม่นานก็ตาม
เกม Hood : Outlaws & Legends ก็เป็นอีกหนึ่งเกมที่มี concept แปลกใหม่ ทั้งการเอา Theme ที่เป็นตำนานอย่าง Robinhood ที่ปล้นคนรวย ช่วยเหลือคนจน มาผสมเข้ากับเอลิเม้นแบบเวทมนต์ในยุคยุโรปโบราณ ซึ่งน่าสนใจมากและเน้นการเล่นไปที่ มัลติเพลเยอร์ ทำให้เกมเมอร์สาย Co-op ต้องหันมาจับตามองเกมนี้ตั้งแต่เปิดตัว ด้วยความที่ ธีมของเกม Hood : Outlaws & Legends เป็นแบบสงคราม การยิงกัน อาจทำให้ผู้เล่นรู้สึกเบื่ออะไรเดิม ๆ ทำให้เกมออกแบบมาให้ใช้ดาบ เวทมนตร์ และธนู แทน ต้องมาดูว่าเมื่อเล่นแล้วเกมยังคงน่าสนใจเหมือนกับที่ได้เปิดตัวไว้หรือเปล่า รีวิวเกม Hood : Outlaws & Legends การเริ่มต้นของเกม Hood : Outlaws & Legends เป็นเกมสำหรับการเล่นแบบมัลติเพลเยอร์เท่านั้น จะไม่ได้มี stories โหมดเนื้อเรื่อง และไม่ได้มีเนื้อเรื่อง อาจจะมีแค่ฉากหลังที่มีเซ็ตติ้งเป็นยุโรปยุคกลางผสมความแฟนตาซีในโลกที่โหดร้ายที่ถูกปกครองด้วยคนเลว […]